เล่นเสียก็อยากได้คืน ความรู้สึกนี้เชื่อว่าเป็นกันแทบทุกคนโดยเฉพาะคนที่ชอบเอาเงินร้อนหรือเงินเย็นที่ำเป็นต้องใช้จ่ายในปัจจุบันมาเล่นบาคาร่า ถึงอย่างนั้นการตามทุนคืนกลับมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเล่นนานไปยิ่งเสียคืนให้กับคาสิโนตามค่า House Edge แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถตามทุนกลับมาได้เสียทีเดียว ซึ่งทางทีมงานแนะนำให้ศึกษาสูตรบาคาร่าทั้งหมดเท่าที่จำทำได้เพื่อลดความความเสี่ยงในการเล่นพนันบาคาร่าออนไลน์ แต่ในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับสูตรเดินเงินบาคาร่ายอดนิยมอย่าง Martingale ที่ว่ากันว่าสูตรนี้สามารถช่วยตามทุนที่เสียไปกลับคืนมาได้ ว่าแต่เป็นอย่างไร ใช้ยากหรือไม่ ทุกอย่างที่ต้องรู้มีอยู่ในบทความนี้แล้ว
สูตรเดินเงินมาร์ติงเกล วิถีแห่งการแทงทบ
หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อสูตรแทงทบไม่ก็สูตรบาคาร่า 5 ไม้กันมาบ้าง ที่จริงแล้วสูตรเหล่านั้นที่เขาพูดกันก็คือสูตรเดินเงินมาร์ติงเกลนั่นเอง โดยหลักการของสูตรนี้คือทุกครั้งที่แทงเสียจะต้องวางเดิมพันเป็นสองเท่าของตาที่เสียในตาถัดไปเสมอ เช่น แทงไป 10 บาท เสีย ตาต่อไปแทง 20 บาท ถ้าเสียอีกก็แทง 40 บาท เป็นต้น และเมื่อใดก็ตามที่ชนะเราจะได้เงินทุนที่เสียไปกลับมาทั้งหมดพร้อมกับกำไรอีก 1 หน่วย
วิธีใช้สูตรเดินเงิน Martingale
จากที่เกริ่นไปว่าสูตรนี้จะทำให้เราได้เงินทุนกลับมาทั้งหมดรวมถึงกำไรอีก 1 หน่วย หมายความว่าก่อนใช้สูตรมาร์ติงเกล เราจะต้องแบ่งเงินทุนออกเป็นหน่วยย่อย ๆ เสียก่อน โดยแต่ละหน่วยจะต้องมีมูลค่าเท่ากัน เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณว่าเงินทุนที่มีพอที่จะใช้สูตรนี้หรือไม่ สมมติว่ามีเงินอยู่ 1,000 บาท แบ่งเป็นหน่วยละ 10 บาท ก็จะได้ 100 หน่วย สำหรับการใช้สูตรมาร์ติงเกลเราจะแบ่งออกเป็น 5 ตา ในแต่ละตาให้วางเดิมพันดังนี้
- ตาที่ 1 วางเดิมพัน 1 หน่วย ถ้าแพ้ให้เล่นต่อ
- ตาที่ 2 วางเดิมพัน 2 หน่วย ถ้าแพ้ให้เล่นต่อ
- ตาที่ 3 วางเดิมพัน 4 หน่วย ถ้าแพ้ให้เล่นต่อ
- ตาที่ 4 วางเดิมพัน 8 หน่วย ถ้าแพ้ให้เล่นต่อ
- ตาที่ 5 วางเดิมพัน 16 หน่วย ไม่ว่าชนะหรือแพ้ให้เลิกเล่น
ตัวอย่าง
ตาที่ 1 วางเดิมพัน 10 บาท
- ถ้าชนะจะได้กำไร 10 บาท
- ถ้าแพ้จะเสียทุน 10 บาท
ตาที่ 2 วางเดิมพัน 20 บาท
- ถ้าชนะจะได้กำไร 20 บาท หักทุนที่เสียไป 10 บาท เหลือกำไร 10 บาท
- ถ้าแพ้จะเสียทุน 20 บาท เท่ากับว่าขาดทุนสะสม 30 บาท
ตาที่ 3 วางเดิมพัน 40 บาท
- ถ้าชนะจะได้กำไร 40 บาท หักทุนที่เสียไป 30 บาท เหลือกำไร 10 บาท
- ถ้าแพ้จะเสียทุน 40 บาท เท่ากับว่าขาดทุนสะสม 70 บาท
ตาที่ 4 วางเดิมพัน 80 บาท
- ถ้าชนะจะได้กำไร 80 บาท หักทุนที่เสียไป 70 บาท เหลือกำไร 10 บาท
- ถ้าแพ้จะเสียทุน 80 บาท เท่ากับว่าขาดทุนสะสม 150 บาท
ตาที่ 5 วางเดิมพัน 160 บาท
- ถ้าชนะจะได้กำไร 160 บาท หักทุนที่เสียไป 150 บาท เหลือกำไร 10 บาท
- ถ้าแพ้จะเสียทุน 160 บาท เท่ากับว่าขาดทุนสะสม 310 บาท
ความเสี่ยงและโอกาสที่จะชนะ
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าสูตรมาร์ติงเกลนั้นสามารถใช้เรียกเงินทุนที่เสียไปทั้งหมดกลับมาได้ก็จริง แต่สูตรนี้ก็มีความเสี่ยงมากถึง 3.5/5 หรือประมาณ 70% นั่นก็เพราะว่าทุกครั้งที่เราวางเดิมพันลงไปโอกาสชนะก็จะลดลงเรื่อย ๆ ตามหลักการของค่า House Edge อยู่แล้ว รวมถึงเงินทุนที่ต้องเพิ่มเป็น 2 เท่าเรื่อย ๆ เพื่อแลกกับเงินทุนที่เสียไปกับกำไรอีกแค่หน่วยเดียว สิ่งที่ได้รับกลับมาอาจดูไม่ค่อยคุ้มที่จะเสี่ยงนัก
นอกจากเรื่องของค่า House Edge แล้ว แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในการเล่นแต่ละตา อาจทำให้เราวิเคราะห์เกมผิดพลาดได้จากการมีอารมณ์ร่วมไปกับเกม จนบางครั้งอาจเกิดการวางเงินแบบส่ง ๆ ให้มันจบ ๆ กันไปได้เช่นกัน
ขนาดของเงินทุนที่ควรมี
ในการใช้สูตรเดินเงินมาร์ติงเกลจะเห็นได้ว่าเป็นสูตรที่ต้องมีเงินทุนจำนวนที่มากพอ สมมติว่าจะใช้สูตรนี้ในการเล่น 5 ตา ก็ต้องมีทุนอย่างน้อย 1+2+4+8+16 = 31 หน่วยลงทุน หรือถ้าเล่น 10 ตาก็ต้องมีทุนอย่างน้อย 1+2+4+8+16+32+64+128+256+512 = 1,023 หน่วย คำถามก็คือว่าคุณคิดว่าตัวเองพร้อมจะเสี่ยงเงินทุนสูงขนาดนี้เพื่อแลกกับการตามทุนที่เสียไปและกำไรอีกหน่วยเดียวได้จริงหรือ หากคำตอบของคุณคือพร้อมที่จะเสี่ยงล่ะก็ ไปต่อกันเลย
ทริคการเอาชนะบาคาร่าด้วยสูตรเดินเงิน Martingale
แม้ว่าสูตรบาคาร่า Martingale จะค่อนข้างเสี่ยงที่จะเสียเงินทุนจำนวนมากแต่ถ้าชนะขึ้นมามันก็สามารถเรียกเงินทุนที่เสียไปกลับคืนมาได้ทั้งหมดซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักของการใช้สูตรนี้ ส่วนกำไรที่ได้มาแค่ 1 หน่วยก็เป็นเพียงแค่ค่าเสียเวลา สำหรับทริคการเอาชนะด้วยสูตรนี้ก็ง่าย ๆ เพียงแค่
มีเงินทุนที่มากพอ
หากจะใช้สูตรนี้ในการตามทุนคืนล่ะก็ สิ่งแรกที่ควรทำคือดูว่าเงินทุนที่เหลืออยู่ในตอนนั้นมีมากพอที่จะใช้เข้าสูตรหรือไม่ สามารถทบไปได้ไกลแค่ไหน เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะเสียเงินทุนก้อนใหญ่ในกรณีที่ไม่สามารถทบต่อไปได้หรือเกิดทุนหมดก่อน ถ้าคิดว่าเงินไม่พอก็ควรจะหยุดแล้วปรับกลยุทธ์ใหม่จะดีกว่า
จำนวนหน่วยเดิมพันสุดท้ายจะต้องมีมูลค่าไม่เกินที่โต๊ะกำหนด
การใช้สูตรมาร์ติงเกลเราไม่มีทางรู้เลยว่าจะชนะในตาไหน ดังนั้นสิ่งที่ควรทำก็คือแบ่งหน่วยเดิมพันให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ เวลาทบไปเรื่อย ๆ จะได้ไม่ชนกับเพดานสูงสุดของโต๊ะที่กำหนดไว้ เช่น โต๊ะที่เล่นวางเดิมพันได้ตั้งแต่ 10 – 50,000 บาท หากเราเล่นตาละ 100 บาท ในตาที่ 5 จะต้องวางเดิมพัน 16 หน่วย หรือ 1,600 บาท ก็ถือว่ายังไม่มีปัญหาหากสามารถชนะได้ภายใน 5 ตา
แต่ถ้าทบไปเรื่อย ๆ ก็จะไปได้ถึงแค่ตาที่ 9 ที่ต้องวางเดิมพันเป็นเงิน 25,600 หากเสียก็จะไม่สามารถทบได้อีกเพราะในตาที่ 10 จะต้องวางเดิมพัน 51,200 บาท ซึ่งเกินที่โต๊ะได้กำหนดไว้ ดังนั้นเราต้องวางแผนแบ่งหน่วยลงทุนให้ดีโดยคิดถึงสถานการณ์ที่แย่สุด ๆ เอาไว้ก่อน
แทงบาคาร่าฝั่งเดิมเรื่อย ๆ จนกว่าชนะ
ตามสถิติแล้วโอกาสที่เราจะแพ้บาคาร่าติดกันจะลดลงเรื่อย ๆ ครั้งละ 50% ของตาก่อนหน้า นั่นทำให้โอกาสแพ้ในช่วง 5 ตาแรกอยู่ที่ 50%, 25%, 12.5%, 6.25% และ 3.13% หากยังเสียอีก ตาที่ 6 เรามีโอกาสแพ้ที่ 1.56% และจบที่ 0.05% ในตาที่ 10
อย่างไรก็ตามเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้สถิตินี้เป็นจริงได้ก็คือเราต้องแทงฝั่งเดิมไปเรื่อย เช่น ถ้าเล่นเจ้ามือก็ต้องเจ้ามือกันไปยาว ๆ หรือแทงฝั่งผู้เล่นยาว ๆ ห้ามแทงสลับโดดไปมาหรือว่าแทงฝั่งเสมอเด็ดขาด เพราะตามสถิติแล้วต่อให้ออกติดกันอย่างมากก็อยู่ประมาณ 6-7 ตา
2 สูตรที่ถูกพัฒนามาจาก การเดินเงินแบบ Martingale
สูตรการเดินเงินแบบ Martingale ได้รับควมนิยมในการใช้งานอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่แค่การนำไปใช้กับการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์ สูตรนี้ยังถูกนำไปใช้กับการลงทงในรูปแบบต่าง ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เทรดหุ้น , Forex รวมไปถึงคริปโต ดังนั้นสูตรนี้จึงได้ถูกพัฒนาไปอีกโดยมี 2 สูตรดังต่อไปนี้
1. Super Martingale
การพัฒนาจากสูตร Martingale ไปสู่สูตร Super Martingale มีแนวคิดว่าต้องมีกำไรติดมือมาด้วยเสมอและจะต้องเป็นการย้อนเวลากลับไปชนะในทุก ๆ ตาที่แพ้ สูตรนี้จึงใช้หลักการเดินเงินโดยการเพิ่มเดิมพันอีก 1 หน่วยในทุกครั้งที่แพ้ เช่นเดิมพันไป 10 บาทแล้วแพ้ ต่อมาเดิมพันไป 30 บาท ถ้าแพ้อีกก็เพิ่มเดิมพันไปอีก 70 บาท
2. Winning Martingale
วินนิ่งมาร์ติงเกล เป็นการ Reverse หรือย้อนกลับสูตรมาร์ติงเกล โดยการเปลี่ยนหลักจากการแทงทบเวลาเล่นเสีย ให้เป็นการแทงทบตาต่อไปหลังจากที่ชนะด้วยเงินทุนตั้งต้นแค่ 1 หน่วย กับกำไรที่ได้ทั้งหมด สมมติว่าในตาแรกเราแทง 10 บาท และชนะ ตาต่อไปจะแทง 20 บาท หากชนะอีกก็จะแทง 40 บาท ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจในกำไร ดังนั้นเมื่อแพ้ก็เสียแค่เงินทุน 1 หน่วย และกำไรที่ได้มาทั้งหมดเท่านั้น หลักการใช้สูตร Winning Martingale นั้นคล้ายกับมาร์ติงเกลในเรื่องของการวางเดิมพันเป็นสองเท่าทุกครั้ง แต่ต่างกันที่เราจะวางเดิมพันเพียงเวลาที่ชนะ หากแพ้ก็ยังคงวางเดิมพัน 1 หน่วยเท่าเดิมไปเรื่อย ๆ ส่วนระบบการเล่นเราจะยังใช้เป็น 5 ตาเช่นเดิม
บทสรุปสูตรบาคาร่า Martingale
มาถึงตรงนี้คงเห็นกันแล้วว่าสูตรเดินเงินมาร์ติงเกลนั้นสามารถช่วยตามเงินทุนที่เสียไปกลับมาได้จริง ๆ พร้อมกับได้กำไรอีก 1 หน่วยมาเป็นของแถม และสูตรนี้ยังนับว่าเป็น สุดยอดสูตรโกง Super Martingale และอีกทั้งวิธีการใช้ก็ง่ายไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แค่แทงทบไปเรื่อย ๆ ก็พอ ขอแค่มีเงินทุนมากพอที่จะเล่นได้มากกว่า 5 ตา 10 ตา อย่างไรก็ตามสูตรนี้ก็มีความเสี่ยงที่จะเสียเงินทุนสูงจากการที่ทบไปแล้วทุนหมดกลางทางหรือว่ายอดเดิมพันเกินวงเงินที่โต๊ะกำหนดไว้ได้เช่นกัน ดังนั้นจำเป็นต้องมีการวางแผนหรือแบ่งหน่วยเดิมพันให้ดีตั้งแต่แรก เพื่อลดความเสี่ยงตรงนี้ด้วย เก็บตกความรู้เพิ่มเติมสูตรเดินเงินมาร์ติงเกลสามารถนำไปปรับใช้ได้หลายเทคนิคนั้นจึงเกิดเป็นอีกหนึ่งเทคนิคนั้นคือ สูตร Winning Martingale ซึ่งท่านที่อ่านบทความมาถึงตรงนี้แนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มโอกาสชนะการเดิมพันบาคาร่า
อ้างอิง
- สูตรบาคาร่า Martingale – วิธีการเดินเงินใช้ระบบมาร์ติงเกล.
https://stakehow.com/บาคาร่า/สูตรบาคาร่า-martingale/