ด้วยความที่บาคาร่าเป็นเกมที่เล่นง่าย ความเสี่ยงต่ำ มีดีลเลอร์คอยควบคุมดูแลกฎบาคาร่า นักเดิมพันส่วนใหญ่จึงไม่ได้ใส่ใจตรงนี้มากนัก ทำแค่วางเดิมพันแล้วหวังให้ชนะ พอผลลัพธ์ไม่เป็นดังหวังก็โวยวายว่าโดนโกงบาคาร่าทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่รู้อะไรเลย สุดท้ายก็รู้สึกไม่ดีแล้วเลิกเล่นกันไป ที่จริงแล้วถ้าเราสละเวลาศึกษาข้อมูลตามคู่มือเล่นพนันบาคาร่าออนไลน์สักนิดจะรู้ว่าบาคาร่ามีกฎที่หยิบย่อยพอสมควร แน่นอนว่าบทความนี้เราจะพาทุกคนไปเข้าใจกฎบาคาร่ากันให้มากขึ้นรวมถึงกฎของรูปแบบบาคาร่าออนไลน์ย่างบาคาร่าวัววัวหรือบาคาร่าประกันภัยด้วย เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีในการเดิมพัน
กฎในการนับแต้มไพ่
ไม่ว่าจะเป็นบาคาร่ารูปแบบไหน จำนวนไพ่ที่ใช้จะแตกต่างกันไป แต่การนับแต้มไพ่จะยังคงยึดกฎเดียวกัน คือ
- ไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม
- ไพ่ 2 – 9 มีค่าเท่ากับหมายเลขหน้าไพ่
- ไพ่ 10, J, Q และ K มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม
- ไพ่ที่มีดอกต่างกันแต่มีหน้าไพ่เหมือนกัน ให้ถือว่ามีแต้มเท่ากับ เช่น 8♠ กับ 8♦ ก็ถือว่ามี 8 แต้มเท่ากัน
- หากแต้มรวมที่ได้มีค่ามากกว่า 9 จะตัดหลักสิบทิ้งไปให้เหลือแค่หลักหน่วยเท่านั้น เช่น 8♠ กับ 8♦ รวมแล้วได้ 16 จะถือว่าได้แค่ 6 แต้มเท่านั้น
กฎการตัดสินแพ้ชนะ
หลังจากที่รวมแต้มจากไพ่สองใบแล้ว ฝั่งที่มีแต้มใกล้เคียงกับ 9 แต้มมากที่สุด ก็จะเป็นฝ่ายชนะทันที ซึ่งการชนะด้วยไพ่สองใบแรกที่ 8 หรือ 9 แต้มจะเรียกว่า Natural แต่ถ้าทั้งสองฝั่งได้แต้มรวมน้อยกว่า 8 แต้ม และมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้ต้องกว่า 6 แต้ม ดีลเลอร์จะทำการจั่วไพ่เพิ่มตามกฎไพ่ใบที่สามแล้วค่อยตัดสินแพ้ชนะ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี่ท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่คู่มือบาคาร่าแล้วท่านก็จะมีความเข้าใจในเรื่องกฎต่าง ๆ ของการเล่นพนันบาคาร่าออนไลน์มากยิ่งขึ้น
กฎไพ่ใบที่สาม
คนส่วนใหญ่ที่บอกว่าโดนโกงบาคาร่าก็เพราะว่าไม่เข้าใจหรือไม่ได้ศึกษาตามคู่มือกฎไพ่ใบที่สาม ซึ่งมีความซับซ้อน ดังนี้
- ถ้าฝั่งผู้เล่นได้แต้มรวม 6 – 7 แต้ม จะจั่วไพ่ไม่ได้ และไปดูแต้มฝั่งเจ้ามือ
- ถ้าได้แต้มรวม 6 – 7 แต้ม ตัดสินแพ้ชนะได้ทันที
- ถ้าได้แต้มรวม 0 – 5 แต้ม ให้จั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบ แล้วค่อยตัดสิน
- ถ้าฝั่งผู้เล่นได้แต้มรวม 0 – 5 แต้ม จะต้องจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบ ส่วนฝั่งเจ้ามือจะจั่วไพ่เพิ่มได้ก็ต่อเมื่อ
- มีแต้มรวม 0 – 2 แต้ม
- มีแต้มรวม 3 แต้ม และไพ่ใบที่สามของฝั่งผู้เล่นไม่ใช่ 8
- มีแต้มรวม 4 แต้ม และไพ่ใบที่สามของฝั่งผู้เล่นอยู่ระหว่าง 2 – 7
- มีแต้มรวม 5 แต้ม และไพ่ใบที่สามของฝั่งผู้เล่นอยู่ระหว่าง 4 – 7
- มีแต้มรวม 6 แต้ม และไพ่ใบที่สามของฝั่งผู้เล่นอยู่ระหว่าง 6 – 7
หลังจากที่มีการจั่วไพ่เรียบร้อยแล้ว ดีลเลอร์จะรวมแต้มไพ่อีกรอบเพื่อทำการตัดสินผลแพ้ชนะ โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ
- ถ้าแทงฝั่งผู้เล่นหรือเจ้ามือ แล้วออกเสมอ จะได้รับเดิมพันคืน
- ถ้าแทงฝั่งเสมอ แล้วฝั่งเจ้ามือหรือฝั่งผู้เล่นชนะ จะเสียเดิมพันทั้งหมด
- ถ้าแทงฝั่งผู้เล่นหรือเจ้ามือ แล้วฝั่งที่วางเดิมพันไว้ชนะ จะได้รับเงินรางวัล หากแพ้จะเสียเดิมพันทั้งหมด
กฎ บาคาร่าพิเศษ
จากนี้ต่อไปเราจะพาไปรู้จักกับกฎ บาคาร่าพิเศษที่ถูกออกแบบมาสำหรับบาคาร่าแต่ละประเภท ซึ่งมีความแตกต่างกันไปดังนี้
กฎ บาคาร่าไม่มีค่าคอมมิชชั่น
เมื่อใดก็ตามที่ฝั่งเจ้ามือเป็นฝ่ายชนะด้วยแต้มรวมที่ไม่ใช่ 6 แต้ม อัตราจ่ายจะยังคงเป็น 1 : 1 หากชนะด้วยแต้มรวม 6 แต้ม อัตราจ่ายจะปรับเหลือ 1 : 0.5
กฎ บาคาร่าประกันภัย
เมื่อจะมีการจั่วไพ่ใบที่สาม ผู้เล่นสามารถวางเงินประกันในฝั่งที่วางเดิมพันได้ไม่เกินจำนวนเงินที่วางเดิมพันฝั่งเอาไว้ หากชนะเดิมพันบาคาร่าประกันภัย จะเสียเงินประกัน แต่ถ้าแพ้ จะได้รับเงินประกันในอัตราจ่ายที่กำหนด
ยกตัวอย่างเช่น แทงฝั่งผู้เล่น 100 บาท จะวางเงินประกันได้ 50 บาท หากฝั่งผู้เล่นชนะ จะเสียเงินประกัน 50 บาท แต่จะได้เงินรางวัล 100 บาท หากแพ้ จะเสียเดิมพันฝั่งผู้เล่น 100 บาท แต่จะได้รับเงินประกันตามอัตราจ่ายที่กำหนด สูงสุด 1 : 8 ขึ้นอยู่กับจำนวนแต้มที่ตัดสินแพ้ชนะ
กฎ บาคาร่าวัววัว
ผู้เล่นจะต้องมีเครดิตในกระเป๋าอย่างน้อย 9 เท่าของเดิมพันที่วางลงไป เช่น แทงบาคาร่าวัววัวฝั่งผู้เล่น 100 บาท ก็ต้องมีเครดิตติดกระเป๋า 900 บาทขึ้นไป หากชนะจะได้รับอัตราจ่ายตามแต้มที่ได้ ยกเว้นชนะ 9 แต้ม จะต้องจ่ายคอมมิชชั่น 5% แต่ถ้าแพ้จะเสียตามจำนวนแต้มของฝั่งที่ชนะ
ยกตัวอย่างเช่น แทงฝั่งเจ้ามือ 100 บาท ผลคือเจ้ามือชนะ 8 แต้ม จะได้เงินรางวัล 800 บาท สมมติว่าฝั่งผู้เล่นเป็นฝ่ายชนะ 8 แต้ม ก็จะเสียเงิน 800 บาท เป็นต้น
อ้างอิง
- รีวิว บาคาร่าออนไลน์ – เจาะละเอียดลึก สอนครบทุกเรื่องเกี่ยวกับบาคาร่า.
https://stakehow.com/บาคาร่า/รีวิวบาคาร่าออนไลน์/