เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งพอให้มีประสบการณ์แล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องมั่นใจว่าสามารถเอาชนะบาคาร่าได้ไม่ยากและการใช้สูตรเดินเงินแบบเดิม ๆ คงดูไม่สมกับความเป็นโปรเพลเยอร์แน่ ๆ ทั้งที่มีสูตรแทงบาคาร่ามากมายทั้งสูตรบาคาร่า Symmetry Attack , สูตรเดินเงิน Martingale, สูตรบาคาร่า แทงทบ 7 ชั้น เป็นต้น ดังนั้นในบทความนี้เราก็เลยไปสรรหาสูตรเดินเงินทำกำไรสูงในเวลาสั้น ๆ ตอบโจทย์การเดิมพันแบบ Hight Risk Hight Return ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเกมที่มีโอกาสชนะ 50/50 อย่างบาคาร่า นั่นก็คือสูตรเดินเงิน Labouchere (ลาบูเชอร์) ว่าแล้วเราจะไปดูกันว่าสูตรนี้มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ใช้ยากหรือไม่ ทำไมถึงเหมาะกับมืออาชีพอย่างคุณ
สูตรเดินเงินลาบูเชอร์ ความเหมือนที่แตกต่าง
จะว่าไปแล้วไม่ว่าสูตรเดินเงินไหน ๆ ก็มีเป้าหมายเดียวกันคือบริหารเงินทุนที่มีอยู่ เพียงแต่วิธีการจะแตกต่างกันไป อย่างมาร์ติงเกลเราจะใช้เวลาที่เล่นเสียเพื่อตามเงินทุนกลับมา หรือจะเป็นวินนิ่งมาร์ติงเกลที่เน้นเอากำไรมาขยายเงินทุน ขณะที่คนเน้นชัวร์ไม่เน้นเล่นแช่ก็หันไปซบสูตร 1324 ที่การันตีกำไรทันทีเมื่อชนะ 2 ตาติด ถึงอย่างนั้นทุกสูตรก็มีจุดเริ่มต้นที่การกำหนดหน่วยลงทุนก่อนที่จะเริ่มใช้สูตร
ทว่าลาบูเชอร์มีความแตกต่างออกไปคือเปลี่ยนจากบริหารเงินทุนมาเป็นบริหารความโลภของเราแทน โดยก่อนเริ่มสูตรเราจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าวันนี้หรือรอบนี้จะเอากำไรกี่บาท ยิ่งต้องการกำไรมากยิ่งเสี่ยงมาก หากต้องการเสี่ยงน้อยก็ตั้งกำไรน้อย ๆ แล้วค่อยเริ่มวางเดิมพันโดยใช้วิธีการตามแนวทางของสูตรจนกว่าจะได้กำไรตามที่ตั้งไว้ ก็ดูเหมือนจะง่าย แต่บอกเลยว่ายากมากหากวินัยไม่แน่นพอ
3 กฎสำคัญในการใช้สูตรเดินเงินลาบูเชอร์
ก่อนจะไปเข้ากฎการใช้งานกันเราจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายทำกำไรให้ชัดเจนก่อน เช่นวันนี้ต้องการกำไร 150 บาท ก็เอาเป้ากำไรตรงนี้มาแบ่งเป็นตัวเลขย่อย ๆ ไม่เกิน 10 ตา เรียงจากน้อยไปหามากและทั้งหมดต้องรวมกันได้เท่ากับกำไรที่ต้องการ สมมติว่าเราจะเล่นแค่ 5 ตา ก็จะได้ 10, 20, 30, 40, 50 = 150 บาท
จากนั้นเราก็เดินเกมตามกฎ 3 ข้อ ดังนี้
1. กำหนดเงินเดิมพันตาแรก
หัวใจสำคัญของสูตรบาคาร่าลาบูเชอร์อยู่ที่การวางเดิมพันในตาแรก โดยให้เอาเลขตัวและและตัวสุดท้ายของชุดมารวมกัน จะได้เงินเดิมพันที่ต้องวาง จากชุดตัวเลขของเราก็จะได้ 10 + 50 = 60 หมายความว่าตาแรกจะต้องวางเดิมพัน 60 บาท ทีนี้ก็ไปดูผลกันว่าชนะหรือแพ้
กรณีที่ชนะเดิมพันตั้งแต่รอบแรก ให้เราตัดตัวเลขที่ใช้ไปแล้วออกจากชุดเดิมพัน เช่น ตาแรกได้มาจาก 10 + 50 = 60 ก็ตัด 10 กับ 50 ออกไปก็จะเหลือ 20, 30 และ 40 ตาต่อไปก็ต้องวางเดิมพัน 20 + 40 = 60 ถ้าชนะอีกก็ตัดตัวเลขออกจากชุดไป ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าตัวเลขจะหมด
กรณีที่แพ้ตั้งแต่ตาแรก จะต้องเอาเงินเดิมพันที่วางในตาแรกเพิ่มเข้าไปในชุดตัวเลข เช่น แทงไป 60 แล้วเสีย ก็จะได้ชุดตัวเลขเป็น 10, 20, 30, 40, 50, 60 แล้วในตาต่อไปก็ต้องเอาเลขแรกบวกกับเลขท้ายก็จะได้ 10 + 60 = 70
2. ตัวเลขหมดคือได้กำไร
กฎข้อนี้ไม่มีอะไรมาก แค่เดินเงินตามระบบไปเรื่อย ๆ เราจะได้กำไรครบเมื่อชุดตัวเลขถูกใช้ไปจนหมด แต่ถ้ายิ่งแพ้บ่อยตัวเลขก็จะเพิ่มเข้าไปในชุดเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้เราต้องเล่นนานขึ้น โอกาสที่จะได้คืนก็ยากตามไปด้วยเช่นกัน
3. เพิ่มชุดตัวเลขเพื่อกระจายความเสี่ยง
หากใครไม่ต้องการความเสี่ยงแต่ยังอยากใช้สูตรนี้ การเพิ่มชุดตัวเลขเข้าไปจะช่วยกระจายความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง เพราะตัวเลขที่ใช้สามารถใช้ซ้ำกันได้ขอแค่รวมแล้วได้เท่ากับเป้ากำไรที่ตั้งไว้ก็พอ ในที่นี้เราอาจแบ่งเป็น 10, 10, 20, 20, 30, 30, 30 ก็ได้ รวมแล้วก็ได้ 150 เหมือนกัน ยิ่งใช้เงินเดิมพันน้อยยิ่งความผันผวนน้อย แต่มันก็แลกมาด้วยระยะเวลาที่มากขึ้น ทำให้โอกาสสำเร็จน้อยตามไปด้วย การกำหนดชุดตัวเลขจึงควรให้มีความเหมาะสมด้วย
ใครที่เหมาะกับสูตรนี้บ้าง
สำหรับสูตรนี้คนที่จะใช้ได้อย่างแรกต้องมีเงินทุนสูง ๆ และสามารถรับความเสี่ยงที่จะเสียเงินก้อนโตได้ นอกจากนี้จะต้องมีทักษะและประสบการณ์ในการอ่านเค้าไพ่ด้วย เพราะสูตรนี้ทำงานได้ดีแค่ในช่วงสั้น ๆ คือต้องชนะติดกันหรือชนะบ่อยกว่าแพ้เท่านั้นถึงจะทำกำไรได้เร็ว หากทางเกมไม่ขาดแพ้ติดกันมากเกินไป เงินเดิมพันก็จะขยายจนบานปลาย จึงต้องมีวินัยและจุดตัดขาดทุนไว้เสมอ
ข้อดี – ข้อเสียของลาบูเชอร์
ข้อดี
- ใช้งานง่าย วางเงินได้ทันที เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์สูง
- ทำกำไรในระยะสั้นได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่า House Edge
ข้อเสีย
- ความเสี่ยงที่จะเสียเงินก้อนโตมีสูง หากกำหนดเป้ากำไรไว้สูงเกินไป
- การวางเดิมพันไม่ได้เริ่มต้นที่ 1 หน่วย เหมือนสูตรเดินเงินอื่น ๆ
- ต้องมีความเข้าใจในการกำหนดชุดตัวเลขเพื่อกระจายความเสี่ยงด้วย
2 สูตรบาคาร่าที่ต้องเรียนรู้ก่อนที่จะใช้สูตรลาบูเชอร์
จากข้อมูลข้างต้นท่านจะเห็นว่า การใช้สูตรลาบูเชอร์ในการแทงบาคาร่าออนไลน์นั้น มีความเสี่ยงที่สูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำกำไรระยะสั้น และคนที่จะใช้สูตรนี้จะต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะเสียงเงินก้อนโตจากทุนที่ท่านตั้งไว้ ดังนั้นในบางช่วงที่ท่านจัดการกับความรู้สึกนี้ไม่ได้หรือท่านกำลังประสบปัญหาเงินเดิมพันบานปลาย วิธีแก้ไขเบื้องต้นนั้นก็คือฝึกวินัยให้กับตัวเองให้มาก รวมถึงศึกษาสูตรบาคาร่าให้ปลากหลายที่สุด เพื่อทำให้ท่านมีความรู้ที่มากขึ้นและนำความรู้จากสูตรนั้น ๆ ไปปรับใช้ในหน้างานที่เจอ โดยทางทีมงานขอแนะนำ 2 สูตรบาคาร่าที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมคือ
- สูตรบาคาร่า Symmetry Attack หรือที่เรียกกันว่าสูตรโจมตีด้วยความสมดุล สูตรนี้ช่วยให้ผู้เล่นสามารถใช้งานได้กับทุกเกมเดิมพันที่มีโอกาสแพ้ชนะเท่าๆ กัน สูตรนี้มีความพิเศษและผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนการใช้งาน อย่างไรก็ตาม การเดินใช้สูตรนี้ต้องระมัดระวังและคำนึงถึงเงื่อนไขต่างๆ
- สูตรบาคาร่าทบ 7 ชั้น ปกติสูตรแทงทบที่หลายท่านรู้จักก็คือ ทุกครั้งจะแทงทบเป็นสองเท่าเรื่อยๆ เหมือนสูตรมาร์ติงเกล แต่ในสูตรบาคาร่าแทงทบ 7 ชั้นนั้นจะลดทุนในการแทงทบลงมาครึ่งหนึ่ง จากเดิมเป็น 1, 2, 4, 8, 16, 32 และ 64 แต่จะเปลี่ยนเป็น 1, 2, 3, 5, 7, 9 และ 11 ตัวอย่างเช่น แผนการวางเดิมพันเป็น 1 + 2 + 3 + 5 + 7 + 9 +11 = 38 หน่วย ซึ่งหน่วยละ 10 บาท ท่านก็จะต้องมีทุนขั้นต่ำ 380 บาท
ทิ้งท้ายสูตรเดินเงินลาบูเชอร์
สรุปแล้วสูตรเดินเงินลาบูเชอร์เป็นสูตรที่เหมาะสำหรับการทำกำไรในระยะสั้นเท่านั้น โดยผู้ใช้จำเป็นต้องมีเงินทุนและประสบการณ์ที่สูง แต่ถ้าท่านอยากทำกำไรระยะยาวทางทีมงานขอแนะนำสูตรเดินเงินอัตราส่วนคงที่จะเหมาะกว่าหรืออาจจะใช้สูตร Symmetry Attack ก็ได้เช่นกัน และการใช้สูตรเดินเงินลาบูเชอร์กับสูตรบาคาร่าทบ 7 ชั้น จะต้องมีทักษะการบริหารความโลภของตัวเองด้วย เพราะยิ่งกำหนดเป้าหมายสูงหรือใช้ชุดตัวเลขสูงเกินไป ความเสี่ยงและความผันผวนก็จะสูงตามไปด้วย แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความเสี่ยงและเน้นเล่นสั้นล่ะก็ ลาบูเชอร์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถพาคุณพิชิตกำไรได้ดีเลยทีเดียว
อ้างอิง
- สูตรเดินเงินเดิมพัน ลาบูเชอร์ Labouchere – ทำกำไรได้เร็ว เหมาะกับคนชอบเสี่ยง.
https://stakehow.com/บาคาร่า/สูตรเดินเงินเดิมพัน-lbc/