ถ้าจะพูดถึงการแทงทบเชื่อว่าทุกคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสูตร Martingale สูตรแทงทบ 5 ไม้, สูตรบาคาร่า 1324 ต่างก็เป็นสูตรบาคาร่าสำหรับมือใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีรูปแบบการใช้งานที่ง่าย ไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ ถึงอย่างนั้นก็มีสูตรแทงทบอีกตัวที่น่าในใจไม่น้อย นั่นก็คือสูตรแทงทบ 7 ชั้น ว่าแต่สูตรนี้เป็นอย่างไร ทำงานได้ดีหรือไม่ ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ไปดูกันเลย
ปรับ Mind Set ก่อนเล่นบาคาร่า
เราเข้าใจดีว่าทุกคนที่เข้ามาในคาสิโนออนไลน์ต่างก็ต้องการกำไรกลับไปทั้งนั้น จึงไม่แปลกที่ต่างคนต่างต้องการสูตรเดินเงินที่ดีที่สุดเอาไว้ทำกำไร ตรงนี้ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไรแต่ก็สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงได้เช่นกัน
ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่มักจะเกิดจากการเล่นบาคาร่าแบบเสี่ยงโชควัดดวงไปวัน ๆ ไม่มีแผน ไม่มีระบบ โลภไม่สิ้นสุด พอเล่นเสียก็คิดว่าไม่มีทางเอาชนะเจ้ามือได้แน่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Odd หรือ House Edge ต่างก็สร้างมาให้คาสิโนได้เปรียบ ดังนั้นการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนการเล่นบาคาร่าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และหากเป็นนักเดิมพันที่รู้จักสังเกตกันเสียหน่อยจะเห็นว่ามันมีกลยุทธ์ต่าง ๆ มากมาย รวมถึงระบบการเล่นที่สามารถช่วยทำกำไรในระยะสั้นได้ เพราะว่าไม่มีใครเอาชนะคาสิโนได้ในระยะยาว
อีกสิ่งที่มักจะถูกมองข้ามเวลาเล่นเกมคาสิโนก็คือการวางเดิมพันทีมีโอกาสออกได้สองแบบ เช่น สูง-ต่ำ, แดง-ดำ รวมถึง เจ้ามือ-ผู้เล่นในบาคาร่า ก็เพราะว่ามันได้ผลตอบแทนน้อยทั้งที่มีเป็นจุดที่มีความเสี่ยงต่ำมาก มีโอกาสแพ้ชนะพอ ๆ กัน ที่สำคัญมันคือรูปแบบการวางเดิมพันที่สามารถเอาสูตรบาคาร่ามาใช้ได้ทุกสูตร ช่วยให้เรามีโอกาสทำกำไรในระยะสั้นมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ทำไมต้องสูตรบาคาร่าทบ 7 ชั้น
ลำพังแค่มาร์ติงเกล 5 ไม้ก็แทบจะแย่อยู่แล้ว เจอทบ 7 ชั้นมันไม่แย่ไปกว่านี้เหรอ อันนี้ก็ต้องไปพิจารณาความเสี่ยงกันเอาเองเพราะสูตรแทงทบก็มีข้อดีข้อเสียเหมือนกัน เราไม่มีทางรู้ว่าจะเสียติดกันมากแค่ไหน ยิ่งเป็นสูตรมาร์ติงเกลที่ต้องทบสองเท่าไปเรื่อย ๆ ยิ่งอันตราย มันสามารถทำให้พอร์ตเราระเบิดได้ง่าย ๆ หายทั้งทุนทั้งกำไรในพริบตา
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมต้องทบ 7 ชั้น เพราะสูตรนี้เราจะลดการทบสองเท่าลงมาแค่ครึ่งหนึ่ง จากเดิมที่ใช้ 1, 2, 4, 8, 16, 32 และ 64 ก็จะเป็น 1, 2, 3, 5, 7, 9 และ 11 ด้วยขนาดเดิมพันที่เล็กลงไม่เพียงแค่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียเงินก้อนโตเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้เราไม่จำเป็นต้องเตรียมเงินสำรองไว้เยอะเกินไปอีกด้วย
ถึงแม้ว่าอัตราต่อรองของสูตรแทงทบ 7 ชั้น จะมีโอกาสชนะติดกัน 7 ตา เพียงแค่ 255 : 1 ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก ๆ ที่จะชนะติดกันแบบนี้ แต่สิ่งที่เราคาดหวังไม่ใช่การชนะติดกันถี่ ๆ ตราบใดที่ยังเล่นชนะก็ยังทำเงินได้ หรือต่อให้เสียสัก 2 ตาติด ชีวิตก็ยังไม่ติดลบหรือกำไรหายเกลี้ยงแต่อย่างใด
แล้วต้องมีเงินทุนมากแค่ไหน
ถ้าเรายึดตามระบบแล้ว สูตรแทงทบ 7 ชั้น จะต้องวางเดิมพันทั้งหมด 1 + 2 + 3 + 5 + 7 + 9 +11 = 38 หน่วย หากเราเล่นบาคาร่า 10 บาท ก็ต้องมีเงิน 380 บาท แต่ถ้าจะให้ดีควรมีเงินทุนเผื่อเอาไว้ประมาณ 50 เท่า ของหน่วยเดิมพันที่เราตั้งไว้ อย่างกรณีนี้เล่นตาละ 10 บาท ก็ควรมีขั้นต่ำ 500 บาท เป็นต้น เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องกดดันตัวเองมากจนเสียสมาธิเล่นและกันเงินหมดด้วย เพราะสูตรแทงทบ 7 ชั้น ต้องวางเดิมพันทุกตา
เทคนิคการวางเดิมพัน
ก่อนอื่นที่ต้องทำก็คือโยนเรื่องการอ่านเค้าไพ่ออกไปเสีย ไม่ว่ามันจะออกฝั่งเจ้ามือถี่ ๆ หรือออกฝั่งผู้เล่นยาวเป็นหางมังกร หรือต่อให้ออกสลับท่าไหนก็ช่างมัน สุดท้ายแล้วเราก็แค่เดาว่ามันจะออกฝั่งเดียวกับครั้งที่แล้วหรือจะออกฝั่งตรงข้าม ซึ่งการคาดเดาเราจะใช้เทคนิคที่เรียกว่า Second Last กับ Opposite แทน
Second Last
ปกติแล้วเทคนิคนี้เราจะใช้เล่นในห้องที่มีเค้าไพ่ไม่ชัดเจน ดูมั่ว ๆ เป็นแบบผสม ไม่มีรูปแบบตายตัว หรือจะเป็นห้องที่ชอบออกฝั่งใดฝั่งหนึ่งติด ๆ กัน เทคนิค Second Last คือเราจะแทงตามตัวถัดสุดท้าย ยกตัวอย่างเช่น
- PBP ตาต่อไปแทง B
- PBPB ทายถูก ได้มา 1 หน่วย กำไรสะสม 1 หน่วย ตาต่อไปแทง P
- PBPBB ทายผิด เสียไป 1 หน่วย กำไรสะสม 0 หน่วย ตาต่อไปแทง B
- PBPBBB ทายถูก ได้มา 1 หน่วย กำไรสะสม 1 หน่วย ตาต่อไปแทง B
- PBPBBBB ทายถูก ได้มา 1 หน่วย กำไรสะสม 2 หน่วย ตาต่อไปแทง B
- PBPBBBBB ทายถูก ได้มา 1 หน่วย กำไรสะสม 3 หน่วย ตาต่อไปแทง B
- PBPBBBBBP ทายผิด เสียไป 1 หน่วย กำไรสะสม 2 หน่วย ตาต่อไปแทง B
- PBPBBBBPB ทายถูก ได้มา 1 หน่วย กำไรสะสม 3 หน่วย ตาต่อไปแทง P
จะเห็นได้ว่าเทคนิคนี้มีจุดอ่อนตรงที่เมื่อใดก็ตามไปเจอการออกแบบเค้าไพ่ตัดสอง (PP, BB, PP, BB) ลักษณะนี้จะทำให้เราเสียติดกันทุกตา อย่างเช่น มันออก PP ตาต่อไปเราต้องแทง P แต่มันดันออก B ตามสูตรเราแทง P อีกครั้ง มันออก B อีก พอต้องแทง B มันก็จะกลับมาออก P เป็นต้น
Opposite
แปลง่าย ๆ ก็คือการแทงสวน มันเป็นเทคนิคที่เอามาไว้แก้จุดอ่อนของ Second Last เมื่อใดก็ตามที่เจอเค้าไพ่ตัดสองหรือออกฝั่งเดียวกันสองตัวติดให้แทงสวนตัวรองสุดท้าย เช่น ถ้าออก PPBB ก็ให้แทง P หรือถ้าออก BBPP ก็ให้แทง B แต่จำไว้ว่า หลังจากเจอออกสองตัวติดกันให้แทงสวนแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ที่เหลือให้แทงตาม Second Last จนกว่าจะเจอออกสองตัวติดอีกครั้ง ยกตัวอย่างเช่น
- BP ตาต่อไปแทง B (Second Last)
- BPP ทายผิด ได้มา 1 หน่วย ขาดทุนสะสม 1 หน่วย ตาต่อไปแทง B (Opposite)
- BPPP ทายผิด เสียไป 1 หน่วย ขาดทุนสะสม 2 หน่วย ตาต่อไปแทง P (Second Last)
- BPPPP ทายถูก ได้มา 1 หน่วย ขาดทุนสะสม 1 หน่วย ตาต่อไปแทง P (Second Last)
- BPPPPB ทายผิด เสียไป 1 หน่วย ขาดทุนสะสม 2 หน่วย ตาต่อไปแทง P (Second Last)
- BPPPPBP ทายถูก ได้มา 1 หน่วย ขาดทุนสะสม 1 หน่วย ตาต่อไปแทง B (Second Last)
- BPPPPBPP ทายผิด เสียไป 1 หน่วย ขาดทุนสะสม 2 หน่วย ตาต่อไปแทง B (Opposite)
วิธีเดินเงินกับสูตรแทงทบ 7 ชั้น
จะเห็นได้ว่าความเสี่ยงในข้างต้นคือมันมีโอกาสที่เราจะพลาดโดนไพ่ตัดสอง ดังนั้นเพื่อให้การวางเดิมพันมีประสิทธิภาพเราจะใช้การเดินเงินแบบทบ 7 ชั้น โดยแบ่งลำดับการวางเดิมพันเป็น 1, 2, 3, 5, 7, 9 และ 11 โดยมีกฎการเดินเงินดังนี้
- ถ้าชนะให้เพิ่มเดิมพันทีละ 1 ชั้น
- ถ้าแพ้ ให้ลดเดิมพัน 1 หน่วย
- ถ้าชนะระหว่างชั้นหลังจากลดเดิมพัน 1 หน่วย ให้เพิ่มเดิมพัน 1 ชั้นในตาถัดไป
ยกตัวอย่างเช่น
- แทง 1 หน่วย ชนะ
- ตาต่อไปแทง 2 หน่วย ชนะอีก
- ตาต่อไปแทง 3 หน่วย ชนะอีก
- ตาต่อไปแทง 5 หน่วย แพ้
- ตาต่อไปจะต้องแทง 4 หน่วย ไม่ใช่ 3 หน่วย ตรงนี้ถือเป็นการเล่นระหว่างชั้น
- ถ้าชนะ ตาต่อไปแทง 7 หน่วย ตามกฎข้อที่ 3
- ถ้าแพ้ ตาต่อไปแทง 3 หน่วย ตรงนี้ถ้าชนะให้ขยับไปแทง 5 หน่วย ถ้าแพ้ก็ไปแทง 2 หน่วย
สำหรับสูตรแทงทบเราจะจบรอบก็ต่อเมื่อเข้าเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งต่อไปนี้
- เมื่อชนะ 3 ตาแรกติดต่อกัน
- เมื่อชนะ 4 ใน 5 ครั้ง ไม่จำเป็นต้องติดกันก็ได้
- เมื่อชนะและได้เงินรวมไม่น้อยกว่า 10 หน่วย
- เมื่อแพ้ติดต่อกัน 3 ครั้ง
- เมื่อแพ้ครบ 20 หน่วย
- เมื่อชนะหรือแพ้ที่เดิมพัน 11 หน่วย
- เมื่อพึงพอใจและคิดว่าตรงตามแผนที่วางไว้แล้ว
นอกเหนือจากสูตรแทงทบ 7 ชั้น ตามที่บอกในตอนต้นของบทความว่า บาคาร่านั้นมีสูตรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสูตร 1324 เป็นต้น แต่มีอยู่หนึ่งสูตรที่ท่านต้องศึกษาทำความเข้าใจควบคู่กับสูตรแทงทบ 7 ชั้น นั้นก็คือ สูตรบาคาร่าแทง 5 ทบ หรือในชื่ออย่างเป็นทางการที่นักพนันมืออาชีพเรียกกันนั้นคือ สูตรเดินเงิน Martingale
สูตรเดินเงิน Martingale หลักการของสูตรนี้คือทุกครั้งที่แทงเสีย รอบถัดไปจะต้องแทงเพิ่มเป็นสองเท่าเสมอตัวอย่างการเดินเงินจากสูตร Martingale คือ ตากแรกแทง 10 บาท แล้วเสีย ตาถัดไปต้องแทง 20 บาท ไปเรื่อย ๆ โดยส่วนใหญ่สูตรนี้จะใช้แค่ 5 ทบ และเมื่อใดที่ท่านชนะ ท่านจะได้ทุนคืนมาทั้งหดมพร้อมกำไรอีก 1 หน่วย
ทิ้งท้ายสูตรบาคาร่าทบ 7 ชั้น
ในมุมมองของผู้เขียนแล้ว สูตรนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสูตรบาคาร่าที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก่าก็สามารถใช้ได้ เพราะเป็นสูตรที่มีความง่าย ไม่ต้องจำเค้าไพ่ แค่ดูว่า 2 ตาสุดท้ายออกฝั่งเดียวกันหรือไม่ หากออกฝั่งเดียวกันให้แทงสวนตารองสุดท้าย หากออกสลับกันให้แทงตามตารองสุดท้าย ส่วนการเดินเงินก็ไม่ยุ่งยากแค่ชนะให้เพิ่มเดิมพัน 1 ชั้น แพ้ให้ลดเดิมพัน 1 หน่วย อย่างไรก็ตามการจะทำกำไรให้ได้จริงแค่สูตรอย่างเดียวไม่พอ ท่านจะต้องศึกษาเทคนิคและสูตรอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสูตรบาคาร่า แทงดัก 4 ฝั่ง , สูตรเดินเงิน Martingale เป็นต้น และทุกท่านควรจะมีแผนการเล่นที่ชัดเจนด้วย เพราะท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีสูตรไหนที่สามารถการันตีได้ 100%
อ้างอิง
- สอนเดินเงินบาคาร่า และสอนแทง ด้วย ระบบพื้นฐานที่ดีที่สุด ทบ 7 ชั้น.
https://stakehow.com/บาคาร่า/สอนเดินเงินบาคาร่า-ทบ7/